You are currently viewing อากรแสตมป์ สำหรับกิจการปล่อยเงินกู้ออนไลน์

อากรแสตมป์ สำหรับกิจการปล่อยเงินกู้ออนไลน์

ธุรกิจปล่อยเงินกู้ออนไลน์เป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงผู้ใช้จำนวนมาก ธุรกิจประเภทนี้มีกฎหมายรองรับ หนึ่งในนั้นคือการเสีย อากรแสตมป์

อากรแสตมป์

อากรแสตมป์เป็นภาษีอากรที่รัฐเรียกเก็บจากนิติกรรมและสัญญาที่ระบุไว้ในบัญชีอัตราอากรแสตมป์

การให้กู้ยืมเงิน

การให้กู้ยืมเงินเป็นนิติกรรมที่ต้องเสียอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 83

อัตราการเสีย อากรแสตมป์

ลักษณะแห่งตราสารค่าอากรแสตมป์ผู้ที่ต้องเสียอากรผู้ที่ต้องขีดฆ่าแสตมป์

  5. กู้ยืมเงินหรือการตกลงให้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคาร

ทุกจำนวนเงิน 2,000 บาท หรือเศษของ 2,000 บาท แห่งยอดเงินให้กู้ยืม หรือตกลงให้เบิกเงินเกินบัญชี

ค่าอากรตามลักษณะแห่งตราสารนี้ เมื่อคำนวณแล้วถ้าเกิน 10,000 บาท ให้เสีย 10,000 บาท

1 บาทผู้ให้กู้ผู้กู้

วิธีการเสีย อากรแสตมป์

กรณีไม่เสีย อากรแสตมป์

  • สัญญากู้ยืมเงินนั้นไม่มีผลบังคับ
  • ไม่สามารถนำไปฟ้องร้องบังคับคดีได้

การยกเว้นอากรแสตมป์

  • การกู้ยืมเงินซึ่งสมาชิกกู้ยืมจากสหกรณ์หรือสหกรณ์กู้ยืมจากสหกรณ์หรือจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

    (พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2529 ใช้บังคับ 1 ก.พ.2529 เป็นต้นไป)

เอกสารที่ใช้ในการเสียอากรแสตมป์

  • สัญญากู้ยืมเงิน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาบัตรประชาชน

บทลงโทษ

  • ถ้าปรากฏต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าตราสารมิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์เป็นเวลา ไม่พ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์ให้เรียกเก็บเงินเพิ่มอากรเป็น 2 เท่าจำนวน อากรหรือเป็นเงิน 4 บาท แล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า

  • ถ้าปรากฎต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ว่า ตราสารมิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์เป็นเวลาพ้น กำหนด 90 วัน นับแต่วันต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์แล้วให้เรียกเก็บเงินเพิ่มอากรเป็น 5 เท่าจำนวน อากรหรือเป็นเงิน 10 บาทแล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า

  • อ่านเพิ่มเติม

บทสรุป

ผู้ประกอบกิจการปล่อยเงินกู้ออนไลน์ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอากรแสตมป์และภาษีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ควรปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

แหล่งข้อมูล

ประเด็นเพิ่มเติม

  • สัญญากู้ยืมเงิน: ควรมีการเขียนสัญญาให้ชัดเจน ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนเงิน ระยะเวลา ดอกเบี้ย วิธีการชำระคืน และเงื่อนไขต่างๆ
  • การนำไปจดทะเบียน: สัญญากู้ยืมเงินบางประเภท เช่น สัญญากู้ยืมเงินที่มีระยะเวลาเกิน 1 ปี จำเป็นต้องนำไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงจะมีผลบังคับคดีได้
  • การเสียภาษี: เงินที่ได้จากการปล่อยกู้ยืมเงินอาจต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ผู้ประกอบกิจการปล่อยเงินกู้ออนไลน์ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น