อากรแสตมป์ เป็นภาษีอากรที่รัฐจัดเก็บจากประชาชน โดยใช้ในการประทับบนเอกสาร หนังสือ หรือสัญญา เพื่อแสดงว่าได้เสียภาษีอากรตามกฎหมายแล้ว อย่างไรก็ตาม หากบุคคลใดได้ทำสัญญาและสัญญานั้นได้เสียค่าอากรแสตมป์ไปแล้ว ต่อมาตรวจสอบแล้วอากรแสตมป์นั้นได้เสียไว้เกินหรือไม่มีหน้าที่ต้องเสีย ผู้ที่ได้ชำระอากรมีสิทธิ “ขอคืนค่าอากรแสตมป์” ได้ บทความนี้จะกล่าวถึงขั้นตอนและวิธีการขอคืนค่าอากรแสตมป์ในประเทศไทย
มาตรา 122 ผู้ใดได้เสียค่าอากรหรือค่าเพิ่มอากรเกินไปไม่น้อยกว่า 2 บาท สำหรับตราสารลักษณะเดียว
หรือเรื่องเดียว ผู้นั้นชอบที่จะทำคำร้องเป็นหนังสือยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เมื่ออธิบดีเห็นว่าเกินไปจริง
ก็ให้คืนค่าอากรหรือค่าเพิ่มอากรที่เกินไปนั้นแก่ผู้เสียอากรได้ แต่คำร้องที่กล่าวนั้นต้องยื่นภายในเวลา
6 เดือน นับแต่วันเสียอากร หรือค่าเพิ่มอากรและต้องประกอบด้วย คำชี้แจงหรือเอกสารซึ่ง
พนักงานเจ้าหน้าที่หรืออธิบดีเห็นควรให้ยื่นสนับสนุนคำร้อง
หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
- ผู้ใดได้เสียค่าอากรหรือค่าเพิ่มอากรเกินไปไม่น้อยกว่า 2 บาท
- ให้ยื่นคำร้องภายในเวลา 6 เดือนนับแต่วันเสียอากรหรือค่าเพิ่มอากร
- คำร้องต้องประกอบด้วยคำชี้แจงหรือเอกสาร ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่หรืออธิบดีเห็นสมควรให้ยื่นการสนับสนุนคำร้อง
- อธิบดีเห็นว่าเกินไปจริงผลตามกฎหมาย คืนค่าอากรหรือค่าเพิ่มอากรที่เกินไปนั้นแก่ผู้เสียอากรได้
*** การเสียอากรแสตมป์โดยไม่มีหน้าที่ต้องเสีย มีสิทธิขอคืนค่าอากรได้ภายใน 10 ปี นับแต่วันเสียค่าอากรแสตมป์ตามมาตรา 193/30 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
เอกสารที่ต้องเตรียม
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล กรณีผู้ขอคืนเป็นนิติบุคคล หรือ สำเนาบัตรประชาชนกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดา
- เอกสาร หนังสือ หรือสัญญา ที่ประทับอากรแสตมป์
- เอกสาร อ.ส.4 หรือ อ.ส.9 ในกรณีที่เคยชำระค่าอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน
- หลักฐานแสดงเหตุผลในการขอคืน
ขั้นตอนในการ “ขอคืนค่าอากรแสตมป์”
- ดาวน์โหลดแบบฟอร์มขอคืนเงินอากรแสตมป์ จากเว็บไซต์กรมสรรพากร แบบฟอร์มคำร้องขอคืนเงินภาษีอากร
- กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มให้ครบถ้วน
- เตรียมเอกสารหลักฐานให้พร้อม
- ยื่นคำร้องขอคืนเงินอากรแสตมป์ ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ที่สะดวก