Categories: Stamp Duty

เอกสารที่เป็นภาษาต่างประเทศต้องเสีย อากรแสตมป์ หรือไม่?

การทำธุรกรรมทางกฎหมายในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศ แต่มีการติดต่อทางธุรกิจระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้หลายครั้งเราต้องพบกับ เอกสารหรือสัญญาที่จัดทำเป็นภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ จีน หรือญี่ปุ่น คำถามที่ผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือแม้แต่บุคคลทั่วไปมักสงสัยก็คือ “เมื่อใช้เอกสารที่เป็นภาษาต่างประเทศในประเทศไทย ต้องเสีย อากรแสตมป์ หรือไม่?”

บทความนี้จะอธิบายหลักเกณฑ์ กฎหมาย และแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คุณเข้าใจชัดเจนและสามารถดำเนินการได้ถูกต้องตามกฎหมายไทย 

1. หลักกฎหมายเกี่ยวกับ อากรแสตมป์

พระราชบัญญัติอากรแสตมป์ พ.ศ. 2481 กำหนดให้เอกสารบางประเภทที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ต้องเสียอากรแสตมป์ เช่น สัญญากู้ยืม สัญญาเช่า หนังสือมอบอำนาจ ใบมอบของ ฯลฯ โดยไม่คำนึงว่าเอกสารนั้นจะจัดทำขึ้นด้วยภาษาใด
เงื่อนไขสำคัญคือ หากตราสารหรือเอกสารนั้นถูกนำมาใช้ในประเทศไทย ก็ถือว่าต้องอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายไทย และมีหน้าที่ต้องเสียอากรแสตมป์ตามที่กำหนด

2. เอกสารที่ทำในต่างประเทศ

กรณีที่เอกสารทำขึ้นในต่างประเทศ เช่น สัญญากู้ยืมกับบริษัทแม่ที่ต่างประเทศ หรือข้อตกลงการร่วมลงทุนกับคู่ค้าในต่างชาติ หากนำเอกสารนั้นมาใช้ในประเทศไทย จะต้องเสียอากรแสตมป์ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่นำมาใช้ในไทย
ตัวอย่างเช่น

  • บริษัทไทยทำสัญญากู้ยืมเงินกับบริษัทญี่ปุ่น โดยสัญญาเป็นภาษาอังกฤษ
  • เมื่อเอกสารนี้ถูกนำมาใช้ประกอบธุรกรรมทางบัญชีในประเทศไทย บริษัทไทยจะต้องเสียอากรแสตมป์ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด

3. เอกสารที่ทำในประเทศไทยแต่ใช้ภาษาต่างประเทศ

หลายองค์กร โดยเฉพาะบริษัทข้ามชาติ มักทำสัญญาภายในประเทศไทยเป็นภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจร่วมกันระหว่างคู่สัญญา เช่น สัญญาจ้างงานผู้บริหารต่างชาติ หรือสัญญาบริการกับบริษัทต่างประเทศ
คำตอบคือ หากตราสารดังกล่าวเข้าข่ายที่กฎหมายกำหนด ก็ยังคงต้องเสียอากรแสตมป์เช่นเดียวกับเอกสารภาษาไทย ไม่มีข้อยกเว้นว่าทำเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นแล้วจะไม่ต้องเสีย

4. ความสำคัญของการแปลเอกสาร

เมื่อเอกสารเป็นภาษาต่างประเทศ หากต้องยื่นต่อกรมสรรพากร ศาล หรือหน่วยงานราชการไทย มักจะมีการกำหนดให้ แนบฉบับแปลภาษาไทย ที่มีการรับรองความถูกต้องด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบและตีความได้ถูกต้อง

  • การแปลควรจัดทำโดยนักแปลผู้เชี่ยวชาญ หรือบริษัทแปลที่ได้รับการรับรอง
  • ควรมีผู้มีอำนาจลงนามรับรองความถูกต้องของการแปล (เช่น ทนายความ หรือนิติกรของบริษัท)
  • บางกรณีอาจต้องใช้การแปลที่รับรองโดยกรมการกงสุลหรือสถานทูต ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน

5. อัตรา อากรแสตมป์ สำหรับเอกสารภาษาต่างประเทศ

อัตราอากรไม่ได้เปลี่ยนแปลงตามภาษา แต่จะขึ้นอยู่กับประเภทของตราสารและมูลค่าในสัญญา เช่น

  • สัญญาเช่า: คำนวณจากค่าเช่ารวมตลอดสัญญา
  • สัญญากู้ยืมเงิน: คิดตามวงเงินกู้
  • หนังสือมอบอำนาจ: คิดเป็นอัตราคงที่

ดังนั้น แม้สัญญาจะเป็นภาษาอังกฤษหรือจีน หากเข้าข่ายที่กฎหมายกำหนด อัตราก็จะคิดเช่นเดียวกับเอกสารภาษาไทย

6. ผลทางกฎหมายหากไม่เสีย อากรแสตมป์

หากไม่เสียอากรแสตมป์ เอกสารนั้นจะไม่สามารถนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานในศาลได้ และผู้เกี่ยวข้องอาจถูกเรียกเก็บเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม เช่นเดียวกับกรณีเอกสารภาษาไทย
ตัวอย่างผลกระทบ:

  • หากบริษัทไทยไม่เสียอากรแสตมป์ในสัญญากู้ยืมภาษาอังกฤษ ศาลอาจไม่รับเอกสารนั้นเป็นหลักฐานยืนยันการกู้ยืม
  • ส่งผลกระทบต่อการบังคับสิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย และความน่าเชื่อถือขององค์กร

7. การเสีย อากรแสตมป์ ในระบบ e-Stamp Duty

ปัจจุบันกรมสรรพากรรองรับการชำระอากรแสตมป์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamp Duty) ซึ่งผู้ประกอบการสามารถ

  1. ลงทะเบียนในระบบ
  2. กรอกข้อมูลตราสาร
  3. แนบไฟล์เอกสารที่เป็นภาษาต่างประเทศ พร้อมฉบับแปล
  4. ชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์
  5. รับใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamp Certificate)

ระบบนี้สามารถใช้งานได้ในเวปของกรมสรรพากรช่วยให้จัดการเอกสารต่างประเทศได้ง่ายขึ้น และในกรณีที่มีข้อมูลต้องเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินจำนวนมาก แนะนำใช้งานจากบริการของ e-Stamp Duty Service Provider ที่ได้รับการรับรองจากกรมสรรพากร 

ลดความเสี่ยงจากการใช้ดวงแสตมป์กระดาษ

8. ข้อควรระวังและคำแนะนำ

  • ตรวจสอบประเภทเอกสาร ว่าเข้าข่ายต้องเสียอากรหรือไม่
  • อย่าละเลยการแปลภาษาไทย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการตีความ
  • ชำระตรงเวลา: 15 วันหากทำในไทย และ 30 วันหากทำในต่างประเทศแล้วนำมาใช้ในไทย
  • ใช้ระบบ e-Stamp Duty เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

คำตอบของคำถามที่ว่า “เอกสารที่เป็นภาษาต่างประเทศต้องเสียอากรแสตมป์หรือไม่?” คือ
“ต้องเสีย หากเอกสารนั้นถูกนำมาใช้ในประเทศไทย และเข้าข่ายตราสารที่กฎหมายกำหนด” ไม่ว่าภาษาที่ใช้จะเป็นไทย อังกฤษ หรือภาษาใด ๆ ก็ตาม
การเสียอากรแสตมป์ให้ถูกต้องตรงเวลาไม่เพียงแต่ช่วยให้เอกสารมีผลบังคับตามกฎหมาย แต่ยังเป็นการลดความเสี่ยงในการถูกปรับ และเพิ่มความน่าเชื่อถือของธุรกรรมทางธุรกิจ โดยเฉพาะในยุคที่ธุรกรรมข้ามชาติกลายเป็นเรื่องปกติในทุกวงการธุรกิจ

Wekij

Recent Posts

10 เรื่องลับเกี่ยวกับอากรแสตมป์ในประเทศไทยที่หลายคนไม่รู้

แม้ชื่อ “อากรแสตมป์” จะฟังดูคล้ายกับแสตมป์ไปรษณีย์ และหน้าตาก็อาจใกล้เคียงกันจนหลายคนสับสน แต่ในความเป็นจริงแล้ว อากรแสตมป์มีบทบาทเฉพาะทางด้านภาษีที่สำคัญอย่างยิ่งในระบบกฎหมายและการเงินของประเทศไทย เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดให้ใช้บนตราสารหรือเอกสารทางกฎหมายบางประเภท เพื่อแสดงว่ามีการชำระภาษีถูกต้องตามกฎหมายถึงแม้อากรแสตมป์จะเกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางกฎหมายโดยตรง แต่คนทั่วไปกลับรู้จักมันน้อยมาก หรือเข้าใจคลาดเคลื่อนไปในหลายแง่มุม บางคนไม่รู้ว่าจะหาซื้อได้ที่ไหน ใช้อย่างไร หรือแม้แต่สิ่งพื้นฐานอย่างวิธีขีดฆ่าหลังใช้งานบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 10 เรื่องลับเกี่ยวกับอากรแสตมป์ในประเทศไทยที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน…

2 months ago

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ อากรแสตมป์

อากรแสตมป์ เป็นภาษีประเภทหนึ่งที่เรียกเก็บจากการทำธุรกรรมทางกฎหมายและเอกสารตามที่กฎหมายกำหนด เช่น สัญญากู้ยืมเงิน สัญญาจ้างแรงงาน หรือหนังสือมอบอำนาจ เป็นต้น ซึ่งมีผลทางกฎหมาย และเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนหรือผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จะรวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอากรแสตมป์ เพื่อเป็นแนวทางให้เข้าใจและปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง อากรแสตมป์คืออะไร? อากรแสตมป์ (Stamp Duty)…

3 months ago

อากรแสตมป์ คืออะไร?

อากรแสตมป์ เป็นภาษีอากรที่มีความสำคัญในระบบกฎหมายและเศรษฐกิจของประเทศ โดยเป็นค่าธรรมเนียมที่รัฐเรียกเก็บสำหรับการใช้เอกสารทางกฎหมายหรือธุรกรรมทางการเงินที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย การเสียอากรแสตมป์ช่วยให้รัฐสามารถควบคุมและตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเอกสารและลดปัญหาการปลอมแปลง ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอากรแสตมป์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของความหมาย ความสำคัญ อัตราภาษี วิธีการชำระ และผลกระทบจากการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย ความหมายของ อากรแสตมป์ อากรแสตมป์ (Stamp…

7 months ago

ปริมาณการใช้ “อากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์” ในต่างประเทศ

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคเศรษฐกิจและการบริหารภาษี หลายประเทศทั่วโลกได้ปรับเปลี่ยนการใช้อากรแสตมป์แบบดั้งเดิมไปสู่ "อากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์" เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินและภาษี โดยบทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณและสัดส่วนการใช้งานอากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ในแต่ละประเทศ รวมถึงแนวโน้มและความเปลี่ยนแปลงในอนาคต สิงคโปร์ สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีการใช้งาน e-Stamp Duty คิดเป็นกว่า 95% ของการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับอากรแสตมป์ทั้งหมด…

7 months ago

ความแตกต่าง “อากรแสตมป์” แบบดวง และ แบบอิเล็กทรอนิกส์

การชำระ ​​"อากรแสตมป์" เป็นภาระภาษีที่สำคัญในการทำธุรกรรมทางกฎหมายและการเงินในประเทศไทย ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก คือ อากรแสตมป์แบบดวง (Physical Stamp Duty) และอากรแสตมป์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamp Duty) ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน…

7 months ago

ประวัติศาสตร์ของ “อากรแสตมป์” ในประเทศไทย

การเก็บ "อากรแสตมป์" เป็นหนึ่งในวิธีการจัดเก็บภาษีที่มีมาอย่างยาวนานในประเทศไทย โดยมีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับรัฐเพื่อนำไปพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ การเก็บอากรแสตมป์เริ่มต้นขึ้นในยุคใดและมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างนั้น มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง จุดเริ่มต้นของ "อากรแสตมป์" ในประเทศไทยการจัดเก็บอากรแสตมป์ในประเทศไทยเริ่มต้นขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประเทศเริ่มเปิดรับการเปลี่ยนแปลงจากตะวันตก โดยมีการนำระบบภาษีสมัยใหม่มาใช้เพื่อเพิ่มรายได้ของรัฐและรองรับการพัฒนาประเทศ โดยได้มีการออกพระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บอากรแสตมป์ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2446…

8 months ago

This website uses cookies.