Categories: Stamp Duty

ปริมาณการใช้ “อากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์” ในต่างประเทศ

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคเศรษฐกิจและการบริหารภาษี หลายประเทศทั่วโลกได้ปรับเปลี่ยนการใช้อากรแสตมป์แบบดั้งเดิมไปสู่ “อากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์” เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินและภาษี โดยบทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณและสัดส่วนการใช้งานอากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ในแต่ละประเทศ รวมถึงแนวโน้มและความเปลี่ยนแปลงในอนาคต

สิงคโปร์

สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีการใช้งาน e-Stamp Duty คิดเป็นกว่า 95% ของการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับอากรแสตมป์ทั้งหมด ระบบ e-Stamping ดำเนินการโดย Inland Revenue Authority of Singapore (IRAS) หรือกรมสรรพากรของสิงคโปร์ ซึ่งให้บริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และเชื่อมต่อกับระบบธนาคารอย่างครบวงจร ช่วยให้ประชาชนและธุรกิจสามารถชำระอากรแสตมป์ผ่านทางออนไลน์ได้โดยไม่ต้องใช้แสตมป์กระดาษ

ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงระบบ e-Stamping ผ่านเว็บไซต์ของ IRAS ได้โดยใช้ SingPass หรือ CorpPass ซึ่งเป็นระบบการยืนยันตัวตนสำหรับบุคคลทั่วไปและนิติบุคคลในสิงคโปร์ ระบบของ IRAS จะคำนวณจำนวนอากรแสตมป์ที่ต้องชำระโดยอัตโนมัติตามประเภทตราสารและมูลค่าการทำธุรกรรม สามารถชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น eNETS, GIRO, PayNow หรือบัตรเครดิต เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ระบบจะออก e-Stamp Certificate ซึ่งเป็นหลักฐานแสดงว่าตราสารดังกล่าวได้เสียอากรแสตมป์ถูกต้องตามกฎหมาย

สิงคโปร์มีแนวโน้มพัฒนา e-Stamping System ให้มีความอัจฉริยะมากขึ้น โดยอาจมีการใช้ AI และ Big Data มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการชำระภาษี อาจเชื่อมโยงข้อมูล e-Stamp Duty กับแพลตฟอร์มธุรกรรมออนไลน์ เช่น ระบบจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ หรือระบบโอนหุ้นแบบอิเล็กทรอนิกส์

อินเดีย

ระบบอากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ในอินเดียดำเนินการโดย Stock Holding Corporation of India Limited (SHCIL) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลให้เป็นผู้ให้บริการหลักในการชำระอากรแสตมป์แบบดิจิทัล ได้เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2013 โดยเฉพาะในรัฐที่มีประชากรหนาแน่น ปัจจุบันสัดส่วนการใช้ e-Stamp คิดเป็นประมาณ 85% ของการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับอากรแสตมป์ ระบบนี้ถูกนำมาใช้เพื่อลดปัญหาการปลอมแปลงและการใช้แสตมป์ซ้ำซ้อนในการทำธุรกรรม การใช้งาน e-Stamping อาจแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐของอินเดีย เนื่องจากอากรแสตมป์เป็นภาษีที่อยู่ภายใต้การกำกับของรัฐบาลท้องถิ่น มีหลายรัฐได้เข้าร่วมระบบ e-Stamping ของ SHCIL เช่น

  • Delhi
  • Maharashtra
  • Karnataka
  • Uttar Pradesh
  • Tamil Nadu

ประชาชนสามารถเข้าใช้งานระบบ e-Stamping ได้ผ่านทาง เว็บไซต์ของ SHCIL เมื่อการชำระเงินเสร็จสมบูรณ์ ระบบจะออก e-Stamp Certificate ซึ่งสามารถดาวน์โหลดและใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายแทนแสตมป์กระดาษ แนวโน้มการใช้งานอากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ในอินเดีย

  • รัฐบาลอินเดียมีแผนจะขยายระบบ e-Stamping ไปยังทุกรัฐและทำให้เป็นมาตรฐานกลาง
  • มีการพัฒนา API และการเชื่อมต่อ e-Stamping กับ Digital India Program เพื่อให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทสามารถดำเนินการร่วมกับระบบนี้ได้
  • ระบบ AI และ Blockchain อาจถูกนำมาใช้เพื่อตรวจสอบธุรกรรมและป้องกันการโกง

สหราชอาณาจักร (UK)

สหราชอาณาจักรได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบ e-Stamp ผ่านหน่วยงาน HM Revenue and Customs (HMRC) โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจหลักทรัพย์ ปัจจุบันสัดส่วนการใช้งาน e-Stamp คิดเป็นกว่า 90% ของการทำธุรกรรมทั้งหมด เพื่อให้การจัดเก็บภาษีมีความสะดวกและโปร่งใสมากขึ้น

สหราชอาณาจักรมี ภาษีอากรแสตมป์ (Stamp Duty) ที่ใช้กับธุรกรรมหลัก ๆ ได้แก่

  • Stamp Duty Land Tax (SDLT) – คือภาษีที่เรียกเก็บจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษและไอร์แลนด์เหนือ (สกอตแลนด์และเวลส์มีระบบภาษีของตนเอง)
  • Stamp Duty Reserve Tax (SDRT) – เป็นภาษีที่เรียกเก็บเมื่อซื้อหุ้นหรือหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ตลาดหุ้นลอนดอน (London Stock Exchange)
  • Stamp Duty (SD) – ภาษีที่ใช้กับการทำธุรกรรมที่ยังคงใช้ตราสารกระดาษ เช่น การโอนหุ้นผ่านใบรับรอง (Stock Transfers)

ระบบอากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamp Duty) เชื่อมโยงกับ Land Registry และ โบรกเกอร์ตลาดหุ้น ทำให้การจดทะเบียนทรัพย์สินและการซื้อขายหุ้นเป็นไปอย่างราบรื่น ช่วยให้ผู้ชำระภาษีสามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ของ HMRC ได้โดยไม่ต้องใช้แสตมป์จริง ลดกระบวนการที่ซับซ้อนและลดโอกาสการทุจริต

จีน

ประเทศจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์อย่างกว้างขวาง รวมถึง อากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Stamp Duty – e-Stamp Duty) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล กรมภาษีแห่งชาติจีน (State Taxation Administration – STA) ได้พัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้สามารถชำระอากรแสตมป์ผ่านช่องทางออนไลน์ มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในภาคธุรกิจและการทำสัญญาทางการเงิน ผ่านการใช้ QR Code และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ปัจจุบันสัดส่วนการใช้ e-Stamp ในจีนอยู่ที่ประมาณ 88% ตัวอย่างเช่น

  • การใช้ e-Stamp Duty กับสัญญาทางธุรกิจ บริษัทสามารถลงทะเบียนสัญญาทางธุรกิจในระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และชำระอากรแสตมป์แบบดิจิทัลโดยไม่ต้องใช้เอกสารกระดาษ
  • การใช้ e-Stamp Duty ในตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น ได้บูรณาการระบบ e-Stamp Duty โดยหักภาษีอัตโนมัติจากการซื้อขายหุ้น
  • การใช้ e-Stamp Duty ในการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ ระบบเชื่อมโยงกับ สำนักงานที่ดินจีน ทำให้สามารถจ่ายอากรแสตมป์ออนไลน์และได้รับใบรับรองทันที

ประเทศจีนได้ เปลี่ยนผ่านจากระบบอากรแสตมป์แบบกระดาษไปสู่ e-Stamp Duty อย่างเต็มรูปแบบ โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น แพลตฟอร์มภาษีออนไลน์, QR Code, e-CNY และแอปพลิเคชันมือถือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้

ออสเตรเลีย

ประเทศออสเตรเลียมีการใช้ อากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Stamp Duty – e-Stamp Duty) เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเก็บภาษี โดยมีการบริหารจัดการผ่านหน่วยงานรัฐของแต่ละรัฐและดินแดน เนื่องจากระบบภาษีของออสเตรเลียเป็นแบบ Federal System ทำให้การจัดเก็บอากรแสตมป์แตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ

สำนักงานภาษีแห่งออสเตรเลีย (ATO) ได้บูรณาการระบบ e-Stamping เข้ากับระบบการชำระเงินออนไลน์และการบริการผ่านธนาคาร โดยเฉพาะในธุรกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์และการทำสัญญาธุรกิจ สัดส่วนการใช้ e-Stamp ในออสเตรเลียคิดเป็นประมาณ 82%

อากรแสตมป์ในออสเตรเลียเรียกว่า “Stamp Duty” หรือ “Transfer Duty” ซึ่งเป็นภาษีที่เรียกเก็บจากธุรกรรมบางประเภท เช่น การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ การโอนหุ้น และการทำสัญญาธุรกิจ โดยแต่ละรัฐจะกำหนดอัตราภาษีและประเภทของธุรกรรมที่ต้องเสียภาษีแตกต่างกัน

แต่ละรัฐและดินแดนจะมีเว็บไซต์เฉพาะของสำนักงานภาษีสำหรับการคำนวณและชำระอากรแสตมป์ออนไลน์ เช่น Revenue NSW, State Revenue Office Victoria, Revenue SA และ Queensland Revenue Office ตัวอย่างระบบ e-Stamp Duty ในแต่ละรัฐของออสเตรเลีย

รัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW) – Revenue NSW

  • ใช้ระบบ Electronic Duties Return (EDR) สำหรับการคำนวณและชำระอากรแสตมป์ออนไลน์
  • ผู้ใช้สามารถเข้าถึงผ่าน NSW Online Duties

รัฐวิกตอเรีย – State Revenue Office Victoria

  • มีระบบ Duties Online สำหรับการยื่นแบบฟอร์มและชำระอากรแสตมป์ผ่านอินเทอร์เน็ต

รัฐควีนส์แลนด์ – Queensland Revenue Office

  • ใช้ระบบ OSRconnect สำหรับชำระอากรแสตมป์แบบดิจิทัล

รัฐเซาท์ออสเตรเลีย – Revenue SA

  • มีระบบ RevenueSA Online ซึ่งช่วยให้ธุรกิจและบุคคลทั่วไปสามารถยื่นแบบฟอร์มและชำระภาษีได้อย่างง่ายดาย

มาเลเซีย

ประเทศมาเลเซียได้พัฒนาและใช้ระบบ อากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamping) เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดเก็บภาษีอากรแสตมป์สำหรับธุรกรรมทางกฎหมายและสัญญาต่างๆ ผู้ใช้ต้องลงทะเบียนบัญชีผ่าน LHDN e-Stamping System ซึ่งสามารถเข้าใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์ของ LHDN Malaysia ระบบนี้บริหารจัดการโดย Lembaga Hasil Dalam Negeri Malaysia (LHDN) หรือ สำนักงานสรรพากรของมาเลเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลการจัดเก็บภาษีของประเทศ มาเลเซียเปิดให้บริการ e-Stamping ผ่านธนาคารและแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อลดความซับซ้อนและเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน ปัจจุบันสัดส่วนการใช้งาน e-Stamp ในมาเลเซียอยู่ที่ประมาณ 80%

เกาหลีใต้

ประเทศเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาและปรับใช้ ระบบอากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamp Duty) อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการเสียภาษีและการออกเอกสารสัญญาต่างๆ ระบบนี้ได้รับการดูแลโดย National Tax Service (NTS) หรือ กรมสรรพากรของเกาหลีใต้ มีการใช้งาน e-Stamp ร่วมกับระบบยืนยันตัวตนผ่านมือถือและ QR Code เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการทำธุรกรรมทางธุรกิจ ปัจจุบันสัดส่วนการใช้ e-Stamp อยู่ที่ประมาณ 87%

ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงระบบ e-Stamp ผ่านเว็บไซต์ของ Korea Minting and Security Printing Corporation (KOMSCO) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลการออกแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ใช้ต้องมีบัญชีที่ลงทะเบียนกับ National Tax Service (NTS) เพื่อให้สามารถดำเนินการชำระภาษีผ่านระบบออนไลน์

แนวโน้มและความท้าทายในอนาคต

แม้ว่าหลายประเทศจะมีการใช้ระบบอากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์อย่างแพร่หลาย แต่ยังคงมีความท้าทายหลายประการ เช่น

  • ความปลอดภัยของข้อมูล: การจัดเก็บและการทำธุรกรรมออนไลน์เสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์ จำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด
  • การให้ความรู้แก่ประชาชน: ประชาชนบางส่วนอาจยังไม่คุ้นเคยกับระบบใหม่ จึงต้องมีการอบรมและประชาสัมพันธ์
  • การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน: ต้องมีการลงทุนในระบบเทคโนโลยีและการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง

การเปลี่ยนแปลงสู่การใช้อากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและความพร้อมในการนำเทคโนโลยีมาช่วยเสริมประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี หลายประเทศมีสัดส่วนการใช้งานสูงถึงกว่า 80-95% ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จในการพัฒนาและปรับปรุงระบบดังกล่าว ประเทศไทยสามารถนำแนวทางเหล่านี้มาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระบบการจัดเก็บภาษีต่อไปในอนาคต

Wekij

Recent Posts

เอกสารที่เป็นภาษาต่างประเทศต้องเสีย อากรแสตมป์ หรือไม่?

การทำธุรกรรมทางกฎหมายในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศ แต่มีการติดต่อทางธุรกิจระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้หลายครั้งเราต้องพบกับ เอกสารหรือสัญญาที่จัดทำเป็นภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ จีน หรือญี่ปุ่น คำถามที่ผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือแม้แต่บุคคลทั่วไปมักสงสัยก็คือ “เมื่อใช้เอกสารที่เป็นภาษาต่างประเทศในประเทศไทย ต้องเสีย อากรแสตมป์…

2 weeks ago

10 เรื่องลับเกี่ยวกับอากรแสตมป์ในประเทศไทยที่หลายคนไม่รู้

แม้ชื่อ “อากรแสตมป์” จะฟังดูคล้ายกับแสตมป์ไปรษณีย์ และหน้าตาก็อาจใกล้เคียงกันจนหลายคนสับสน แต่ในความเป็นจริงแล้ว อากรแสตมป์มีบทบาทเฉพาะทางด้านภาษีที่สำคัญอย่างยิ่งในระบบกฎหมายและการเงินของประเทศไทย เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดให้ใช้บนตราสารหรือเอกสารทางกฎหมายบางประเภท เพื่อแสดงว่ามีการชำระภาษีถูกต้องตามกฎหมายถึงแม้อากรแสตมป์จะเกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางกฎหมายโดยตรง แต่คนทั่วไปกลับรู้จักมันน้อยมาก หรือเข้าใจคลาดเคลื่อนไปในหลายแง่มุม บางคนไม่รู้ว่าจะหาซื้อได้ที่ไหน ใช้อย่างไร หรือแม้แต่สิ่งพื้นฐานอย่างวิธีขีดฆ่าหลังใช้งานบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 10 เรื่องลับเกี่ยวกับอากรแสตมป์ในประเทศไทยที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน…

2 months ago

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ อากรแสตมป์

อากรแสตมป์ เป็นภาษีประเภทหนึ่งที่เรียกเก็บจากการทำธุรกรรมทางกฎหมายและเอกสารตามที่กฎหมายกำหนด เช่น สัญญากู้ยืมเงิน สัญญาจ้างแรงงาน หรือหนังสือมอบอำนาจ เป็นต้น ซึ่งมีผลทางกฎหมาย และเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนหรือผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จะรวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอากรแสตมป์ เพื่อเป็นแนวทางให้เข้าใจและปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง อากรแสตมป์คืออะไร? อากรแสตมป์ (Stamp Duty)…

3 months ago

อากรแสตมป์ คืออะไร?

อากรแสตมป์ เป็นภาษีอากรที่มีความสำคัญในระบบกฎหมายและเศรษฐกิจของประเทศ โดยเป็นค่าธรรมเนียมที่รัฐเรียกเก็บสำหรับการใช้เอกสารทางกฎหมายหรือธุรกรรมทางการเงินที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย การเสียอากรแสตมป์ช่วยให้รัฐสามารถควบคุมและตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเอกสารและลดปัญหาการปลอมแปลง ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอากรแสตมป์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของความหมาย ความสำคัญ อัตราภาษี วิธีการชำระ และผลกระทบจากการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย ความหมายของ อากรแสตมป์ อากรแสตมป์ (Stamp…

7 months ago

ความแตกต่าง “อากรแสตมป์” แบบดวง และ แบบอิเล็กทรอนิกส์

การชำระ ​​"อากรแสตมป์" เป็นภาระภาษีที่สำคัญในการทำธุรกรรมทางกฎหมายและการเงินในประเทศไทย ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก คือ อากรแสตมป์แบบดวง (Physical Stamp Duty) และอากรแสตมป์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamp Duty) ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน…

7 months ago

ประวัติศาสตร์ของ “อากรแสตมป์” ในประเทศไทย

การเก็บ "อากรแสตมป์" เป็นหนึ่งในวิธีการจัดเก็บภาษีที่มีมาอย่างยาวนานในประเทศไทย โดยมีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับรัฐเพื่อนำไปพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ การเก็บอากรแสตมป์เริ่มต้นขึ้นในยุคใดและมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างนั้น มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง จุดเริ่มต้นของ "อากรแสตมป์" ในประเทศไทยการจัดเก็บอากรแสตมป์ในประเทศไทยเริ่มต้นขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประเทศเริ่มเปิดรับการเปลี่ยนแปลงจากตะวันตก โดยมีการนำระบบภาษีสมัยใหม่มาใช้เพื่อเพิ่มรายได้ของรัฐและรองรับการพัฒนาประเทศ โดยได้มีการออกพระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บอากรแสตมป์ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2446…

8 months ago

This website uses cookies.